1. มั่นใจในระบบน้ำฝน: รถยนต์ไฟฟ้ามักมีระบบน้ำฝนที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันน้ำฝนไม่ให้เข้าสู่รถและระบบไฟฟ้า แต่ควรตรวจสอบและรักษาระบบน้ำฝนให้เป็นไปตามความต้องการ ระบบน้ำฝนที่ทำงานไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดภาวะขัดข้องไฟฟ้า
2. หลีกเลี่ยงแห้งเร็ว: เมื่อฝนตกหรือถนนเปียก ระยะหยุดของรถยนต์จะเป็นไปได้มากขึ้น เพื่อประหยัดพลังงานและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ควรเร่งรถอย่างอ่อนๆ และลดความเร็วในสถานการณ์ที่น้ำฝนเป็นฝนหนัก.
3. ระยะห่างจากรถอื่น: ควรรักษาระยะห่างของรถจากรถอื่นในสภาวะฝนตกอย่างเพียงพอ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดสาเหตุกระแทกหรือลื่นไถล
4. ระยะเวลาชาร์จแบตเตอรี่: การขับรถ EV ในสภาวะฝนตกอาจทำให้การใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเปิดไฟเมนูน้ำหนักขึ้น ดังนั้นควรพิจารณาชาร์จแบตเตอรี่ก่อนการขับรถหากแบตเตอรี่อยู่ในสถานะที่เต็มที่เพื่อให้มีพลังงานเพียงพอในระหว่างการขับรถ.
5. ระบบกันฝน: รักษาระบบกันฝนในสภาพที่ทำงานอย่างถูกต้อง เช่น ให้เครื่องพ่นน้ำฝนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ตรวจสอบแว่นหน้าต่างรถอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจว่ามีความสะอาดและให้มองเห็นได้ชัดเจน.
6. ระบบเบรก: ระบบเบรกในรถยนต์ไฟฟ้ามักจะทำงานอย่างต่อเนื่องเมื่อคุณค่อยเร่งหรือเบรก แต่ในสภาวะฝนตก พื้นถนนอาจมีความเลื่อนไถล ดังนั้นควรรักษาระบบเบรกให้เป็นไปตามปกติและควรขับรถอย่างระมัดระวัง

การขับรถยนต์ไฟฟ้าในสภาวะฝนตกไม่ควรเป็นปัญหาใหญ่ แต่ควรระมัดระวังและปฏิบัติตามข้อควรระวังข้างต้นเพื่อความปลอดภัยและความเป็นมือในการขับรถ

วางแผนการเดินทาง Line @ALLEVTHAI ช่วยคุณได้ เราให้บริการแผนที่ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า เพิ่มเพื่อนกับเราเลย https://lin.ee/vFA05Xu