- ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่: การชาร์จแบตเตอรี่ของรถไฟฟ้าใช้เวลานานกว่าการเติมเชื้อเพลิงในรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงดิบ นั่นหมายความว่าผู้ใช้รถไฟฟ้าอาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการชาร์จแบตเตอรี่ ผู้ใช้จึงต้องวางแผนการชาร์จให้เหมาะสมกับระยะทางที่ต้องการขับขี่และเวลาที่มีอยู่
- จำกัดของระยะทางขับขี่: รถไฟฟ้ามีระยะทางขับขี่ที่จำกัดตามความจุแบตเตอรี่ ซึ่งอาจจำกัดความสะดวกสบายในการใช้งานเมื่อต้องขับขี่ในระยะทางที่ยาวหรือเมื่อมีความจำเป็นในการใช้พลังงานมาก เช่น การขับขี่ในระยะทางไกลหรือการขับขี่ในเขตแบตเตอรี่ที่เหลือน้อย
- ค่าใช้จ่ายในการซื้อและบำรุงรักษา: รถไฟฟ้ามักมีราคาสูงกว่ารถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงดิบ และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอาจสูงขึ้นเนื่องจากเทคโนโลยีและชิ้นส่วนที่ซับซ้อนกว่า อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่สูง ซึ่งอาจทำให้ไม่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
- สถานีชาร์จรถไฟฟ้า: ยังมีความจำเป็นในการพัฒนาสถานีชาร์จรถไฟฟ้าให้มีความสะดวกสบายและพร้อมใช้งานทั่วถึงในพื้นที่ทั่วไป เพื่อให้ผู้ใช้รถไฟฟ้าสามารถเติมพลังงานได้อย่างสะดวกและไม่มีข้อจำกัด
- สภาพอากาศ: ระยะเวลาการขับขี่และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่สามารถได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ เช่น อุณหภูมิสูงหรือต่ำมาก ฝนตกหรืออื่น ๆ ที่อาจทำให้แบตเตอรี่พลางงานได้รับผลกระทบและมีการใช้พลังงานมากขึ้น
เป็นไปได้ว่าในอนาคตการใช้รถไฟฟ้าจะมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงต่อไป เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและทำให้การใช้งานรถไฟฟ้าเป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น